กระเจี๊ยบแดง มีชื่อสามัญว่า: Roselle และชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Hibiscuc sabdariffa Linn.
หรือภาษากลางเราจะเรียกกันว่า กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบเปรี้ยว
ภาคใต้เรียกว่า ผักเก้งเค้ง, ส้มเก้งเค้ง
ภาคเหนือจะเรียกว่า ส้มตะเลงเครง, ส้มปู, ส้มพอเหมาะ เชียงใหม่เรียกว่า แกงแดง
ภาคอีสานจะเรียกว่า ส้มพอดี
โดยกระเจี๊ยบแดงมีถิ่นกำเนิดมาจาก ประเทศอินเดียและมาเลเซีย
โดยมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ดังต่อไปนี้ กระเจี๊ยบเรียกได้ว่าเป็นพืชล้มลุกทรงพุ่ม จะสูงประมาณ 1-2เมตร เมื่ออายุได้ 8-12เดือน
โดยลำต้นจะมีผิวเรียบ ตั้งตรง สีของกิ่งก้านและลำต้นจะออกแดงอมม่วง ในส่วนของใบ จะเป็นรูปทรงรีปลายแหลม
ขนาดของใบนั้น ทั้งแนวยาวและกว้างจะมีขนาดที่เกือบจะพอดีกัน โดยดอกของกะเจี๊ยบแดงนั้น จะมีสีแดงเลือดนก
ถ้าแก่เต็มที่ กลีบเลี้ยงก็จะติดกัน ผลของกระเจี๊ยบแดงนั้น จะมีรูปทรงรียาวแหลม โดยกลีบเลี้ยงสีแดงจะห่อหุ้มอยู่ ส่วนของเมล็ดจะมีสีดำ
ฤดูกาลที่ปลูก: ยอดอ่อนออกในช่วงฤดูฝน ส่วนดอกออกในช่วงเดือนตุลาคม
แหล่งปลูกส่วนใหญ่: พบได้ทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย ปลูกมากที่ จังหวัด สระบุรี
การกิน: เรียกได้ว่า กระเจี๊ยบแดงนั้นล้วนนำไปทำเป็นอาหารรับประทานได้แทบจะทุกส่วน
โดยผลและยอดอ่อน สามารถนำไปต้มแล้วเอามาจิ้มทานกับน้ำพริกได้ ส่วนใบจะมีรสชาติเปรี้ยว ก็สามารถนำไปทำเป็นแกงส้มได้
และส่วนที่เราจะกินกันบ่อยๆก็คือ ส่วนกลีบเลี้ยงและกลีบรองดอก เพราะเมื่อนำไปต้ม ก็จะได้น้ำกระเจี๊ยบนั่นเอง
ถ้าใส่น้ำตาลก็นำไปดื่มได้ ถ้าไม่ใส่ก็สามารถนำไปเป็นสีผสมอาหารก็ยังได้
สรรพคุณทางยา: ในส่วนของใบและยอด สามารถนำมาทำน้ำกระเจี๊ยบ ช่วยเรื่องของการขับปัสสาวะ
เป็นยาระบายอ่อนๆชนิดหนึ่ง ละลายเสมหะได้ ถ้าหากมีฝีสามารถบดให้ละเอียดแล้วนำมาพอกได้
แล้วยังสามารถช่วยป้องกันเรื่องของการจับตัวของไขมันในเส้นเลือดอีกด้วย
สรุปออกมาได้ง่ายๆ 5ข้อ คือ
1. ช่วยย่อยและขับปัสสาวะ
2. เป็นยาะบายและพอกฝีได้
3.ป้องกันการจับตัวของไขมันในเลี้ยงได้
4. แก้อาการไอ ลดไข้ นิ่วได้
5. สามารถลดความกระหายลงช่วยให้สดชื่นได้
คุณค่าทางอาหาร
ใบกระเจี๊ยบแดง 100กรัม จะให้พลังงานน้อยมาก โดยประมาณ 40 กิโลแคลลอรี่
โดยใน100กรัม จะมีแคลเซียมอยู่ 10 มิลลิกรัม พร้อมด้วยเส้นใย 1กรัม
แล้วยังมีแร่ธาตุและวิตามินมากมายเช่น ฟอสฟอรัส, แคลเซียม, วิตามินเอ, บี1, บี2, วิตามินซี
ส่วนของผลของกระเจี๊ยบแดง 100 กรัม จะให้พลังงานเท่ากับใบของกะเจี๊ยบแดงคือ ประมาณ 40กิโลแคลลอรี่
โดยใน100กรัม จะมีแคลเซียมอยู่ 170 มิลลิกรัม พร้อมด้วยเส้นใย 1กรัม
แล้วยังมีแร่ธาตุและวิตามินมากมายเช่น ฟอสฟอรัส 20มิลลิกรัม, แคลเซียม 170มิลลิกรัม, วิตามินเอ 180มิลลิกรัม,
วิตามินซี 10มิลลิกรัม, วิตามินบี1 และ บี2 อย่างละ 0.15มิลลิกรัม
