ผักกูดน้ำ (Edible Fern)
ผักกูดน้ำ ภาษาอังกฤษ คือ Edible Fern
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของผักกูดน้ำ คือ Ceratopteris thalictroides (Linn.) Brongn
ผักกูดน้ำมีชื่อเรียกตามภาคต่างๆดังนี้ จังหวัดจันทบุรี เรียกว่า ผักหนวดปลาดุก จังหวัดตรังเรียกว่า ขาเขียดน้ำเค็ม และภาคอื่นๆ เรียกว่าผักกูดกิน, ผักกูดมอญ และผักกูดขาว
ถิ่นกำเนิดของผักกูดน้ำ : ผักกูดน้ำ เป็นพืชที่ขึ้นอยู่ใน เขตร้อน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของผักกูดน้ำ : ผักกูดน้ำ เป็นพืชจำพวกเฟิร์นชนิดหนึ่ง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ก้านใบแตกจากเหง้า ใบมีสีเขียวขอบใบหยัก ก้านใบยาวขึ้นเป็นแผงแบบขนนก ปลายยอดม้วนงอ และปลายใบหงิกงอ
ฤดูกาลของผักกูดน้ำ : ผักกูดน้ำแทงยอดอ่อนได้ตลอดทั้งปี แต่นิยมกินกันในช่วงฤดูแล้ง เพราะจะมีรสชาติอร่อยกว่า
แหล่งปลูกของผักกูดน้ำ : ผักกูดน้ำสามารถขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ โดยชอบขึ้นในบริเวณที่ชื้นแฉะ หรือมักขึ้นตามริมน้ำในทุกภาคของประเทศไทย
การกินของผักกูดน้ำ : นำยอดอ่อนไปทำแกงส้ม, ยำแกงเลียงหรือผัดไฟแดง และยังสามารถกินเป็นผักสด จิ้มน้ำพริกก็ได้
สรรพคุณทางยาของผักกูดน้ำ : ผักกูดน้ำมีสารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย และบำรุงสายตา อีกทั้งยังมีธาตุเหล็กสูงซึ่งช่วยบำรุงร่างกายไม่ให้ซีดเซียวหรืออ่อนเพลีย
คุณค่าทางอาหารของผักกูดน้ำ 100 กรัม ประกอบด้วย
- ให้พลังงาน 19 กิโลแคลอรี่ (Kcal)
- แคลเซียม 5 มิลลิกรัม (mg)
- เส้นใหญ่ 1.4 กรัม (g)
- เหล็ก 36.3 มิลลิกรัม (mg)
- ฟอสฟอรัส 35 มิลลิกรัม (mg)
- Vitamin B1 0.34 มิลลิกรัม (mg)
- วิตามินบี 2 0.08 มิลลิกรัม (mg)
- vitamin c 15 มิลลิกรัม (mg)
- ไนอะซิน 0.5 มิลลิกรัม (mg)
- วิตามินเอ 17167 IU