งา(Sesame) 10สรรพคุณของงา (ช่วยชลอวัยด้วย!) และลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของงา

งา (Sesame)

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของงา : Sesamum indicum Linn.

งาในไทย เรียกกันทั่วไป : ตามสีของงา คืองาขาวหรืองาดำส่วนที่ประเทศจีนเรียกว่า ไอยูบั้วหรือนีโซ

โดยมีถิ่นกำเนิดของงา : อยู่แถบทวีป แอฟริกา

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของงา : งาจัดเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม ตั้งตรงถึงยอด เปลือกบางผิวเรียบ มีร่องตามยาว ลำต้น สีเขียวอ่อนสูงประมาณ 60 ถึง 150 cm มีขนอ่อนปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว รูปไข่สลับ โคนกลมหรือมน ปลายแหลมหรือค่อนข้างมน ขอบแยกเป็น3พู ทั้งลำต้นและใบมีกลิ่นฉุน ใบที่อยู่สูงก้านสั้น ดอกเดี่ยวออกตามช่อใบ มีสีขาวหรือสีม่วง แต้มสีเหลือง กลีบเลี้ยงสีเขียว ปลายกลีบแหลม แยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ ปลายแยกเป็นแฉกรูปขอบขนาน โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน เป็นหลอดโค้ง ผลเป็นฝัก รูปทรง แบนหรือทรงกระบอก ปลายมนมีจะงอย เมล็ดของงา จะมีขนาดเล็ก โดยเมล็ดที่อยู่ในผล จะมีจำนวนมาก มีสี ออกเป็น สีขาวอมเหลือง และ สีน้ำตาล หรือสีดำ ถ้าเป็นสีขาว เรียกว่า งาขาว ถ้าออกเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล เรียกว่า งาดำ

ฤดูกาลของการปลูกงา : นิยมปลูก งาจะปลูกกันในช่วง ปลายฤดูฝน หรือต้นฤดูฝน ถ้าปลูกในช่วงปลายฤดูฝน จะให้ผลผลิต ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคมแต่ถ้า ปลูก ในช่วง ต้นฤดูฝน จะให้ผลผลิตใน ช่วง เดือน เมษายนถึงเดือนมิถุนายน

แหล่งปลูกของงา : นิยมปลูกกันมาก ในแถบภาคอีสานและภาคเหนือ

การกินงา : เมล็ดของงานำมา ทำเป็นอาหารได้หลายชนิด โดย ใช้โรยหน้าอาหาร เช่น ขนมถั่วแปบ กระยาสารท ขนมร้องไห้ งานกระจก ข้าวต้มหัวงอก ขนมเรไร หรือมาทำเป็นน้ำจิ้มสุกี้ก็ได้ หรือนำเมล็ดงามาสกัดเป็นน้ำมันงา ใช้ปรุงอาหารก็ได้