ผักตระกูล เผือก

เผือก (Dasheen)

เผือก

เผือก (Dasheen)

ชื่ออังกฤษเผือก : Dasheen, Eddoe, Japanese Taro, Taro

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของเผือก
เผือก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า โคโลคาเซีย เอสคูเบนตา (แอล) ชอตต์ (Colocacia esculenta (L) Schott) อยู่ในตระกูลอะราเซีย (Aracea) ที่ทราบมีเผือกอยู่กว่า ๒๐๐ พันธุ์ ในเมืองไทยนั้นมีหลายพันธุ์เช่นกัน พืชอีกชนิดหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกว่า เผือก หนังสือพันธุ์ไม้แห่งประเทศไทย เล่ม ๑ ของกรมป่าไม้เรียกว่า ลกกะเซีย (lok-ka-sia) และมีชื่ออื่น ๆ อีก เช่น ยัวเทีย (yautia) และแทนเนีย (tannia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า แซนโทโซมา ซากิตทิโฟลเลียม (Xanthosoma sagittifollium) ลกกะเซีย เป็นเผือกหัวเล็ก เนื่องมาจากหัวที่เป็นแกนใหญ่ไม่สะสมแป้ง จึงใช้เฉพาะส่วนหัวแขนงเท่านั้น เผือกเป็นพืชมีอายุอยู่ได้หลายฤดู ลำต้นใต้ดินเจริญเติบโตกลายเป็นหัว และมีหัวเล็ก ๆ ล้อมรอบ หัวมีขนาดและรูปร่างต่างกันออกไป ปกติต้นสูง ๐.๔-๒ เมตร ใบใหญ่เป็นรูปหัวใจ มีขนาดสีต่าง ๆ กัน ใบเกิดจากใต้ดิน ดอกปกติประกอบด้วย ๒-๕ ช่อดอก อยู่ในก้านใบ ช่อดอกมีก้านยาว ๑๕-๓๐ ซม. ดอกบานทยอยกันเรื่องๆ ดอกตัวเมียมักจะไม่มี ดอกตัวผู้หนึ่งดอกมีก้านเกสรตัวผู้ ๒-๓ อัน ผลมีสีเขียว เปลือกบาง ไม่ค่อยมีเมล็ดเท่าที่ทราบเผือกที่ปลูกในฮาวาย นิวกินี และโดมินิกัน สามารถติดเมล็ดได้ จังหวัดที่ปลูกมาก ได้แก่ ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชัยนาท สมุทรสาคร รองลงไป ได้แก่ ภาคใต้ ปลูกมากในจังวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี ชุมพร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปลูกมากในจังหวัดบุรีรัมย์ มหาสารคาม ส่วนภาคเหนือปลูกเผือกน้อยกว่าภาคอื่น ๆ ปลูกมากในจังหวัดน่าน
เผือกในเมืองไทยเท่าที่มีผู้จำแนกไว้มี ๔ ชนิด ได้แก่
๑. เผือกหอม เป็นชนิดหัวใหญ่ หนักหัวละประมาณ ๒-๓ กก. มีหัวเล็กติดอยู่กับหัวใหญ่เล็กน้อย ต้มรับประทานมีกลิ่นหอม กาบใบใหญ่สีเขียว
๒. เผือกเหลือง หัวขนาดย่อม หัวสีเหลือง
๓. เผือกไม้หรือเผือกไหหลำ หัวมีขนาดเล็ก
๔. เผือกตาแดง ที่ตาของหัวมีสีแดงเข้มมีหัวเล็ก ๆ ติดอยู่รอบหัวใหญ่ เป็นกลุ่มจำนวนมาก กาบใบและเส้นใบสีแดง

ฤดูกาลปลูกเผือก
เผือก ขึ้นได้ทั้งในที่ดินที่มีความชุ่มชื้นสูง ที่ลุ่ม และในที่ดอน น้ำไม่ท่วม จึงมีการปลูกเผือกในพื้นที่ทั้งสองประเภท ในที่ลุ่มยังสามารถ ปลูกเผือกได้ทั้งในน้ำเหมือนปลูกข้าว กับปลูกบนดินที่ชื้นแต่ไม่มีน้ำขัง การปลูกในน้ำคล้ายการทำนาปฏิบัติกันมากในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา (ฮาวาย) ประเทศไทยไม่นิยม พวกที่ปลูกในที่ลุ่มริมแม่น้ำลำคลอง น้ำท่วมในหน้าน้ำนั้น หลังจากน้ำลดแล้วจึงทำการ ปลูกเผือกได้ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และจะไปเก็บก่อนที่น้ำจะท่วมในปีต่อไป ในราวเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม พวกที่ ปลูกในที่ราบน้ำไม่ท่วม และไม่มีการให้น้ำชลประทาน ปลูกโดยอาศัยน้ำฝน ต้องปลูก ต้นฤดูฝน ประมาณเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน

การเลือกที่และการเตรียมดิน
เผือก ชอบขึ้นในที่ที่มีอุณหภูมิประมาณ ๒๑-๒๗ องศาเซลเซียส ต้องการน้ำฝนประมาณ ๑,๗๕๐-๒,๕๐๐ มม. ต่อปี ถ้าปริมาณน้ำฝนน้อยต้องมีการให้น้ำ เผือกขึ้นได้ในดินหลายชนิด ชอบดินที่มีหน้าดินลึก ระบายน้ำดี ดินร่วน มีระดับน้ำในดินสูงมี pH ๕.๕-๖.๕

การเตรียมดินเพื่อปลูกเผือก ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่จะปลูก ในรายที่ปลูกในที่ลุ่มเตรียมดินทันทีหลังจากน้ำลด โดยการไถคล้ายไถนา การเตรียมดินใช้จากน้ำลด โดยการไถคล้ายไถนา การเตรียมดินใช้แรงสัตว์มากกว่าใช้แทรกเตอร์ ตากดินไว้ประมาร ๑ เดือน จึงขุดกลับดินและย่อยดินให้ละเอียดเหมือนการเตรียมดินปลูกผัก ทำการยกร่องสูง ๓๐-๔๐ ซม. ห่างกัน ๗๐-๑๐๐ ซม ถ้าปลูกในนา คล้ายปลูกข้าวก็ไม่ต้องยกร่องเตรียมดินเหมือนเตรียมดินทำนา ในที่ดอนน้ำไม่ท่วม เตรียมดินต้นฤดูฝนประมาณ เดือน พฤษภาคม-มิถุนายน อาจใช้แทรกเตอร์ช่วยในการเตรียมดินได้ ไถ ๑ ครั้ง พรวน ๑-๒ ครั้ง ทำร่องลึก ๓๐ ซม เป็นแถวห่างกัน ๔๐-๖๐ ซม. การใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมช่วยให้เผือกเจริญงอกงามและผลผลิตสูงต้นเผือก

วิธีการปลูกเผือก โดยทั่วไปเผือกไม่มีเมล็ดการขยายพันธุ์ทำโดยใช้หัวเล็ก ๆ อีกวิธีหนึ่งใช้ยอดหรือส่วนบนของหัวเหมือนจุดสับปะรด การปลูกโดยใช้ หัวเล็ก ๆ ได้ปริมาณมากกว่า แต่การปลูกโดยใช้ส่วนบนของหัวขึ้นดีกว่า และได้ผลผลิตดีกว่า การปลูกในนาแบบปลูกข้าวควรใช้ยอด การปลูกด้วยหัวเล็ก ๆ จะต้องชำหัวเล็ก ๆ เหล่านี้ในแปลงที่เตรียมไว้อย่างดีให้งอกเสียก่อนวางหัวเรียงเป็นแถว เอาตาขึ้นข้างบน กลบด้วย ดินละเอียดพอมิดหัวเผือก แล้วคลุมด้วยฟางหนาประมาณ ๒-๕ ซม. รดน้ำให้ชุ่มทุกวันประมาณ ๑๐-๑๕ วัน เมื่อแตกยอดยาว ประมาณ ๑๐-๑๕ ซม. ย้ายลงปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ ปลูกโดยวางหัวเล็ก ๆ หรือยอดของหัวลงในหลุมที่เตรียมไว้ ลึกประมาณ ๑๐-๑๕ ซม. หลุมละ ๑-๒ หัว กลบดินพอมิดหัวเผือก ไม่กลบจนเต็มหลุม หลังปลูก ถ้าเป็นฤดูฝนไม่ต้องรดน้ำ ถ้าเป็นฤดูแล้งหรือไม่มีฝนต้องรดน้ำจนกว่าต้นเผือกจะตั้งตัว ถ้าปลูกในนาควรใช้ยอดและปลูกลึก ๑๗-๒๕ ซม. โดยทั่วๆ ใช้ระยะปลูก ๖๐x๖๐ ซม. จะถี่หรือห่างกว่านี้ก็ได้ เช่น ระยะแถว ๖๐-๑๒๐ ซม. ระยะหลุม ๔๐-๖๐ ซม. แล้วแต่ชนิดเผือกหัวเล็กหรือหัวใหญ่

การกำจัดวัชพืชเผือก การกำจัดวัชพืชเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง หลังจากปลูกจะต้องมีการกำจัดวัชพืชประมาณ ๓-๔ ครั้ง หลังจากกำจัดวัชพืชทุกครั้ง ต้องพรวน ดินระหว่างแถวและกลบโคนต้นเผือกขึ้นมาเรื่อย จนกระทั่งดินเต็มหลุม ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา (ฮาวาย) ยากำจัดวัชพืช ใช้ได้ผล สำหรับประเทศไทยยังไม่มีกรศึกษาในเรื่องนี้ กสิกรส่วนใหญ่กำจัดวัชพืชด้วยแรงงาน ในระยะที่ต้นเผือกเจริญเติบโต จะมี หัวเล็ก ๆ เกิดรอบหัวใหญ่ ถ้าต้องการให้มีหัวขนาดใหญ่ควรตัดหัวเล็กรอบๆ ทิ้ง ใช้เสียมหรือมีดตัดไม่ให้ถูกต้นเดิม

การใส่ปุ๋ยเผือก การปลูกเผือกส่วนใหญ่ปลูกที่ลุ่ม ดินมีความอุดมสมบูรณ์ จึงไม่สู้จำเป็นที่จะต้องใส่ปุ๋ยควรใส่ปุ๋ยคอกกันบ้างโดยใส่รองก้นหลุม และ ผสมน้ำรดเพื่อให้ผลผลิตสูง ในต่างประเทศมีการใส่ปุ๋ยกันโดยใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ปริมาณ ๗-๑๓ กก./ไร่ ฟอสฟอรัสปริมาณ ๒-๔ กก./ไร่ และโพแทสเซียมปริมาณ ๘-๑๕ กก./ไร่ โดยประมาณ

การให้น้ำ ถ้าปลูกเผือก ในหน้าฝนไม่ต้องรดน้ำ แต่ในหน้าแล้งต้องให้น้ำตามความจำเป็น มักจะให้น้ำจนกว่าต้นเผือกตั้งตัว

โรคและแมลง โรคที่เป็นมากแก่เผือก ที่ปลูกในที่ลุ่ม ได้แก่ โรคโคนเน่า (soft rot) สำหรับเผือกที่ปลูกในที่ดอนมีโรคหัวเน่า (tuber rot) อีกโรค หนึ่งที่เป็นกับเผือกทั่วไป ได้แก ใบจุด (leaf spot)แมลงที่พบทำลายเผือกได้แก่ เพลี้ยอ่อนทำลายใบ

เก็บเผือก

การเก็บหัวและรักษาเผือก
เผือก มีอายุแตกต่างกัน ตั้งแต่ ๖-๑๐ เดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูกเผือกหอม ที่ปลูกกันมากในประเทศไทย มีอายุประมาณ ๖ เดือน เมื่อใบเริ่มเหลือง เหี่ยว แสดงว่าหัวเผือกเริ่มแก่ เก็บหัวได้ การเก็บหัวใช้วิธีถอนขึ้นทั้งต้น หรือใช้เสียมหรือจอบขุด มักขุดในระยะ ที่ไม่มีฝน ขุดขึ้นมาแล้วตัดใบและราก ทิ้งเหลือแต่หัว ล้างให้สะอาดส่งตลาด ถ้าไม่ตัดยอดจะเก็บได้นานกว่าเมื่อตัดยอด หัวเผือก มีน้ำหนักหัวละประมาณ ๑-๓ กก. ถ้าต้องการเก็บรักษาหัวเผือกให้นานไม่ควรตัดยอดทิ้ง จะต้องเก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก หัวที่เก็บไว้ควรเป็นหัวที่ไม่มีบาดแผล อาจเก็บได้นาน ๔-๖ เดือน การเก็บในห้องเย็น ๑๐ องศาเซลเซียส สามารถเก็บได้นานถึง ๖ เดือน ผลผลิตของเผือกแตกต่างกันตามพันธุ์ที่ปลูก โดยเฉลี่ยให้ผลผลิตประมาณ ๑-๒.๕ ตัน/ไร่ ถ้าบำรุงรักษาดี มีการให้น้ำ ให้ปุ๋ย ผลผลิตอาจถึง ๔ ตัน/ไร่

15 Comments

  1. จ.ส.อ.สุรชาติ ปะทิเก

    อยากรู้ท่ใดในจังหวัดมหาสารคามมีการปลูกเผือก

  2. Anonymous

    อยากปลูกมั่ง

  3. ชินวัฒน์ แสงชาตรี

    ผมสนใจเรื่องเผือก และคิดว่าจะปลูกเดือนธันวาคมนี้ แต่จะเก็บทันก่อนทำนาหรือไม่

  4. กอบชัย ใจขวัญ

    เพาะ 2 เดือน ปลูก อีก 5 เดือน ใส่ปุ่ย 3 ครั้ง ที่บ้านปลูกแล้ว อยู่ลำปาง 230 ถ.ปงสนุก ต.เวียงเหนือ อ.เมือง ลำปาง
    จะเก็บเกี่ยวเผือกประมาณเดือนก.พ. 2554 มีลูกเผือกจำหน่าย 1 ไร่ใช้ลูกเผือก 12 ถุง ถุงละ 10 กก.กันเน่าอีก 4 ถุง เป็น 16 ถุง ราคา 6500 บาท และให้ปุ๋ยพอคคาเอ็กซ์ 85 อีกชุด ทำครั้งราคาใช้จ่ายประมาณ หมื่นต้น ๆ มีราคาประกัน กก.ละ 8 บาทตันละ8,000 บาท สนใจ 0832006544

  5. Anonymous

    อยากปลูกเหมือนกัน อยู่หนองคาย

  6. เฉลิม

    คนปลูกเผือกหอมที่อยู่แถบภาคอีสานยกเว้นโคราชเพราะชุดดินและอากาศต่างกัน คนปลูกขาดทุนทุกราย ถ้าคนไหนแล้วมีกำไรคุ้มค่าช่วยโทรบอกหน่อยที่เบอร์นี้ 081-471-0691 ( เฉลิม )ร้อยเอ็ด ผมมีอยู่ประมาณ 7 ไร่ ปลูกตั้งเดือน พฤษภาคม หัวใหญ่เต็มที่ไม่เกินครึ่งกิโลหรอกมาซื้อให้หน่อยเจ้านาย เรื่องปรับสภาพดินหรือน้ำไม่ต้องพูดถึงเพราะมีคลองชลทานถ้าอยากจะปลูกต้องย้ายไปอยู่ที่โคราชหรืออำเภอบ้านหมอสระบุรี ถ้างั้นเก้งแน่เหมื่อนผม

  7. เฉลิม

    มีพันธุ์เผือกหอมขาย ราคา 3,500 บาทต่อไร่ (จำนวน 160 กก.ต่อไร่ )เจ้าของกำลังเก็บเกี่ยวอยู่ สนใจโทร 081-471-0691 ( เฉลิม ร้อยเอ็ด ) ( E-MAIL- CHALERM66@gmail.COM )

  8. เอ๋

    สนใจการปลูกเผือกแบบทำนาดำแบบไม่ต้องกลบร่องจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรกับแบบทำนาดำแต่กลบร่อง

  9. เฉลิม

    มีหน่อพันธุ์เผือกหอมเชียงใหม่จำหน่ายจากไร่ ราคา กก.ละ 35 บาท (160 กก.ต่อไร่)เจ้าของไร่กำลังเก็บพร้อมส่งอยู่ขณะนี้ สนใจติดต่อ 081-471-0691 E.MAIL-CHALERM66@gmail.com พร้อมแนะนำการปลูกและตรวจชุดดินให้ ก่อนขายเราจำเป็นต้องสอบถามเรื่องดิน – สภาพอากาศ – ความเป็นกรด-ด่าง ของดินก่อน เราไม่มีความต้องการอยากจะขายแต่เพียงเดียว (เพราะไม่อยากให้ท่านต้องขาดทุน)หากท่านทำได้รายได้รายได้มากกว่าทำนาเจ็ดไร่

  10. อติศักดิ์

    ใครสนใจปลูกเผือกให้ได้ผลผลิตที่ดี
    เชิญติดต่อ 087-960 8790 อติศักดิ์
    ส่งเสริมการปลูกเผือกหอม ครับ
    มี ลูกพันธุ์เผือก ยา อาหารเสริม แนะนำและจำหน่าย

  11. เมย์

    ตอนนี้กำลังปลูกเผือก หอม พันธุ์พิจิต01 อยู่จ. ร้อยเอ็ด อ. เมยวดี คัยสนไจติดต่อสอบถาม

    รายละเอียดได้ที่ 0852971320 ( fogus_gril@hotmail.com )

  12. เพื่อนกัน

    เราเห็นพี่ทองมากับสามีปลูกที่บ้านบึงฉิม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขุดขายเมื่อ เม.ย-พ.ค 54 ปลูก 1 ไร่ ขายได้ตั้ง 5-6หมื่นบาท ลงทุนทั้งหมดแกบอกว่าประมาณ 1.5 หมื่นบาท ตอนนี้ก็กำลังอีก 3-4 ไร่ รอบนี้ไม่ได้ลงทุนเยอะซื้อแต่ปุ๋ยไม่ต้องซื้อพันธุ์อีก ใครที่ปลูกแล้วไม่ได้ผล ขาดทุนน่าจะลองไปศึกษากับแกนะ เลี้ยวลงตรงป้าย รจนารีสอร์ท เห็นแกบอกว่าไม่ยากถ้าตั้งดูแล ได้กำไรเยอะด้วย ปีนี้เห็นว่าจะเอาเป็นแสนสองแสนบาท

  13. รักสงบ

    อยากปลูกมาก..และอยากได้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการปลูก,พันธุ์,และตลาด
    (อุดรธานี)

  14. คนเอาเผือก

    อยากปลูกเผือก มีคนมาส่งเสริมแต่กลัวโดยหลอกเพราะหาข้อมูลบริษัทไม่เจอ

  15. กวี อินทรวรรณ

    อยากทราบที่จะซื้อพันธ์เผือกและวิธีปลูก
    จ.บุงกาฬมีตลาดซื้อขายเผือกหรือไม่
    ราคาประมาณเท่าใด

Leave a Reply

Vegetweb *สงวนลิขสิทธิ์ หากนำบทความไปใช้บนเว็บไซต์ต้องเชื่อมโยงลิ้งก์กลับมายังหน้านั้น