ผักตระกูล ผักกาดหอม

ผักกาดหอมห่อ, ผักกาดแก้ว, Head Lettuce, Iceberg Crisp, Lettuce

ผักกาดหอมห่อ, ผักกาดแก้ว

ผักกาดหอมห่อ หรือ ผักกาดแก้ว มี ชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Lactuca sativa var.capitata ลักษณะทั่วไป เป็นผักสีเขียวค่อนข้างอ่อน ใบห่อเป็นหัว เนื้อใบหนากรอบเป็นแผ่นคลื่น เป็นพืชที่ปลูกง่าย ตลาดมีความต้องการสูง

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมผักกาดหอมห่อ
ผักกาดหอมห่อ หรือ ผักกาดแก้ว เป็นพืชที่ต้องการสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 10-24 ‘C ในสภาพอุณหภูมิสูง การเจริญเติบโตทางใบจะลดลง และพืชจะสร้างสารคล้ายน้ำนม หรือยางมาก เส้นใยสูง เหนียว และมีรสขม ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกควรร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรีย์วัตถุสูง หน้าดินลึก และอุ้มน้ำได้ดีปานกลาง สภาพความเป็นกรด-ด่างของดินอยู่ระหว่าง 6-6.5 พื้นที่ปลูกควรโล่ง และได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ เนื่องจากใบผักกาดหอมมีลักษณะบาง ไม่ทนต่อฝน ดังนั้นในช่วงฤดูฝน ควรปลูกในโรงเรือน

การใช้ประโยชน์ และคุณค่าทางอาหารของผักกาดหอมห่อ
ผักกาดหอมห่อเป็นพืชที่นิยมบริโภคสด โดยเฉพาะในสลัด หรือกินกับยำ นำมาตกแต่งในจานอาหาร แต่สามารถประกอบอาหารได้ในบางชนิด ผักกาดหอมมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก และมีวิตามินซีสูง โดยเฉพาะผักกาดหอมที่มีใบสีแดง นอกจากนี้ยังให้ฮีโมโกลบิน(hemoglobin) ช่วยป้องกันโรคโลหิดจาง บรรเท่าอาการท้องผูก เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน

ผักกาดหอม

การปฎิบัติดูแลรักษา ผักกาดหอมห่อ ผักกาดแก้ว ระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโต

การเตรียมดิน ขุดดินตากแดดและโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตรา 0-100 กรัม/ตร.ม. ทิ้งไว้ 14 วัน ให้วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลงกว้าง 1 ม. ใส่ปุ๋ย 12-24-12 และ 15-0-0 อัตรา 50 กก./ไร่ สัดส่วน 1:1(รองพื้น) ปุ๋ยคอกอัตรา 2-4 ตัน/ไร่

การเตรียมกล้า เพาะกล้าในถาดหลุมแบบประณีต ดินเพาะควรมีระบบน้ำดี อายุกล้าประมาณ 3-4 อาทิตย์

การปลูก ระยะปลูก 30×30 ซม. 3 แถว ในฤดูร้อน และ 40×40 ซม. 3 แถว ในฤดูฝน(เพื่อป้องกันการระบาดของโรค)
ข้อควรระวัง

  • อย่าปลูกในหลุมใหญ่หรือลึกเพราะน้ำอาจขังหากระบายน้ำไม่ดี อาจทำให้เน่าเสียหาย
  • อย่างเหยียบหลังแปลงเพาะ จะทำให้ดินแน่น พืชเติบโตได้ไม่ดี
  • กล้าควรแข็งแรง อายุไม่เกิน 30 วัน เมื่อย้ายปลูก
  • ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ตามคำแนะนำ
  • ก่อนใส่ปูนขาว หรือโดโลไมท์ต้องวัน pH ก่อนช่วงเตรียมดิน
  • หลังย้ายกล้าปลูกในฤดูฝนให้ระวังหนอนกระทู้ดำ และจิ้งหรีด

การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอต่อการเจริญเติบโต การให้ไม่ควรมากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคโคนเน่า

การให้ปุ๋ย หลังปลูก 7 วัน ใส่ปุ๋ย 46-0-0 หรือผสม 15-15-15 อัตรา 5 กก./ไร่ อย่างละครึ่ง พร้อมกำ่จัดวัชพืช หลังปลูก 20-25 วัน ใส่ปุ๋ย 13-13-21 พร้อมกำจัดวัชพืช ขุดร่องลึก 2-3 ซม. รัศมีจากต้น 10 ซม. โรยปุ๋ย 1/2 ช้อมโต๊ะ กลบดินแล้วรดน้ำ
ข้อควรระวัง

  • ควรฉีดพ่น แคลเซียม และโบรอน สัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อป้องกันอาการปลายในไหม้(Tipburn) บางพื้นที่มีปัญหา ขาดธาตุรอง
  • การพรวนดิน ระวังอย่ากระทบกระเทือนราก หรือต้นเพราะจะมีผลต่อการเข้าปลีที่ไม่สมบูรณ์
  • ควรเตรียมแปลงปลูกโดยใส่ปุ๋ยคอก และปุ๋ยหมักปริมาณที่มาก
  • ไม่ควรปลูกซ้ำที่

การเก็บเกี่ยว เมื่ออายุ ได้ประมาณ 40-80 วัน หลังย้ายปลูก ใช้หลังมือกดดูถ้าหัวแน่นก็เก็บได้(กดยุบแล้วกลับคืินเหมือนเดิม) ใช้มีดตัด และเหลือใบนอก 3 ใบเพื่อป้องกันความเสียหายในการขนส่ง หลีกเลี่ยงการเก็บเกี่ยวตอนเปียก ควรเก็บเกี่ยวตอนบ่าย หรือค่ำแล้วผึ่ง ลมในที่ร่ม และคัดเกรดป้ายปูนแดงที่รอยตัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคเข้าสู่หัวอย่าล้างผักบรรจุลงลังพลาสติก
ข้อควรระวัง

  • ในฤดูฝนเก็บเกี่ยว ก่อนผักโตเต็มี่ 2-3 วัน เพราะเน่าง่าย
  • เก็บซากต้นนำไปเผา หรือฝังลึกประมาณ 1 ฟุต ป้องกันการระบาด และสะสมโรคในแปลงปลูก

โรคแมลงศัตรูที่สำคัญ ผักกาดหอมห่อ ในระยะต่างๆของการเจริญเติบโต
ระยะหยอดเมล็ด 0-25 วัน หนอนกระทู้ดำ, หนอนซอนใบ,
ระยะการเจริญเติบโต 20-25 วัน โรคใบจุดเซอคอสปอร์รา, โรคใบจุดเซนโซเรีย, ปลายใบไหม้, หนอนกระทู้ดำ, หนอนซอนใบ, หนอนกินใบ,
ระยะห่อหัว 30-35 วัน โรคใบจุดเซอคอสปอร์รา, โรคใบจุดเซนโซเรีย, ปลายใบไหม้, หนอนซอนใบ, หนอนกินใบ,
ระยะเก็บเกี่ยว 50-55 วัน โรคใบจุดเซอคอสปอร์รา, โรคใบจุดเซนโซเรีย, ปลายใบไหม้, หนอนซอนใบ, หนอนกินใบ,

ภาพจาก: flickr.com

3 Comments

  1. ผักกาดแก้วนี่เราก็ช้อบชอบ…ใส่ในสลัด โอ้วววว แหร่มเลยยยย อิอิ

    ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์

  2. ชอบผัก

    รู้วิธีการปลูกแล้ว…อยากปลูก…แต่ไม่มีเมล็ดพันธุ์…หาซื้อได้ที่ไหนครับ….เคยซื้อแบบซองจากจีน..เพาะแล้วไม่งอก…ข้างซองเขียนบอกยังไม่หมดอายุด้วย…

  3. Anonymous

    การปลูกนี้เกิด แต่อาจจะแคระหรือไม่โตมาก เพราะบางพื้นที่มีสภาพอากาศแตกต่างกันมาก

Leave a Reply

Vegetweb *สงวนลิขสิทธิ์ หากนำบทความไปใช้บนเว็บไซต์ต้องเชื่อมโยงลิ้งก์กลับมายังหน้านั้น