ผัก เป็นอาหาร ประจำวัน ของมนุษย์ เป็นแหล่ง อาหารให้แร่ธาตุ วิตามิน ที่มีคุณค่า ทางอาหารสูง มีราคาถูกเมื่อ เปรียบเทียบ กับเนื้อสัตว์ จากข้อมูล วิจัยกล่าวว่า มนุษย์เราควร บริโภคผักวัน ละประมาณ 200 กรัม เพื่อให้ร่างกาย ได้รับ แร่ธาตุ และวิตามิน อย่างเพียงพอ

ข้อควรพิจารณาก่อนปลูกผักสวนครัว
การปลูกผักสวนครัวต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ  ดังนี้
 1.  การเลือกสถานที่หรือทำเลปลูก ควรเลือกที่ที่มีความสมบูรณ์ ที่สุด อยู่ใกล้ แหล่งน้ำไม่ไกลจากที่พักอาศัย มากนักเพื่อความสะดวก ในการ ปฏิบัติงานด้านการปลูก   การดูแลรักษาและสะดวกในการเก็บ มาประกอบ อาหารได้ทันทีตามความต้องการ
2.  การเลือกประเภทผักสำหรับปลูก ชนิดของผักที่จะปลูกควรคำนึงถึง การใช้เนื้อที่ให้ได้ประโยชน์ มากที่สุดโดยการปลูกผัก มากชนิดที่สุดเพื่อจะได้มีผักไว้บริโภคหลาย ๆ อย่าง  และควรเลือกชนิดของผักที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม  และปลูกให้ตรง กับฤดูกาล   ทั้งที่ควรพิจารณาเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดพันธุ์   วันเสื่อมอายุ   ปริมาณหรือน้ำหนัก  โดยดูจากสลาก ข้างกระป๋อง หรือซองที่บรรจุเมล็ดพันธุ์   ซึ่งจะทำให้ทราบว่า  เมล็ดพันธุ์นั้นใหม่หรือเสื่อมความงอกแล้ว  เวลาวันที่ผลิตถึงวันที่จะซื้อ   ถ้ายิ่งนาน คุณภาพเมล็ดพันธุ์จะลดลง
การเลือกทำเลการปลูกผัก
1.  ที่ตั้งของสถานที่ปลูก ในการปลูกผักหรือพืช  จำเป็นต้องมีดินหรือวัสดุให้ต้นพืชยึดเกาะรวมทั้งเป็นแหล่งน้ำ แหล่งธาตุอาหารที่ จำเป็น ในการเจริญเติบโตของพืช  ซึ่งพิจารณาจากลักษณะของพื้นที่คือ
1.1 มีพื้นที่เป็นพื้นดินในบริเวณบ้าน  อาจจะเป็นแหล่งน้ำหรือพื้นที่ปลูกบริเวณบ้าน  เป็น  สภาพพื้นที่ที่เลือกปลูกผัก ได้หลากชนิด ตามความต้องการ
1.2 ไม่มีพื้นที่ดินในบริเวณบ้าน  ผักสวนครัวบางชนิดจะปลูกได้  จำเป็นต้องปลูกในภาชนะใส่ดินปลูก  อาจจะวางบนพื้น หรือแขวน เป็นผักสวนครัวลอยฟ้า
2.  สภาพแสงและร่มเงา นับว่ามีความจำเป็นในขบวนการสังเคราะห็แสงของพืชเพื่อสร้างอาหาร  ปริมาณแสงที่ได้รับในพื้น ที่ปลูก แต่ละวันนั้นจะมีผลต่อชนิดของผักที่ปลูก  โดยทั่วไปแล้วอาจแบ่งความต้องการแสงในการปลูกผัก  ดังนี้
2.1  สภาพที่ไม่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน  ควรปลูกพืชผักที่สามารถเจริญเติบโตในร่มได้  เช่น  ต้นชะพลู  สะระแหน่  ตะไคร้  โหระพา  ขิง  ข่า  และกะเพรา  เป็นต้น
2.2  สภาพที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน  ควรเลือกปลูกผักที่สามารถเจริญเติบโตได้ในแสงปกติ  เช่น  ถั่วฝักยาว  คะน้า ผักกาดเขียว  กวางตุ้ง  พริกต่าง ๆ ยกเว้น  พริกขี้หนูสวน
ผู้ปลูกผัก
นับเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด  ในการปลูกผักนั้นผู้ปลูกต้องพิจารณาจากสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ความประสงค์ของผู้ปลูก  ควรกำหนดว่าจะปลูกผักโดยมีวัตถุประสงค์อะไร  เช่น  การปลูกเพื่อต้องการได้ผัก มาบริโภค ประจำวัน หรือการปลูกเพื่อเป็นงานอดิเรก
2. ความรู้ในด้านการปลูกผัก  ดังที่ได้กล่าวแล้วในเบื้องต้นว่าการปลูกผักนั้นจะมีวัตถุประสงค์ต่าง ๆ กัน  ดังนั้นในการปลูก ผักทุก ประเภทไม่ว่าผักสวนครัวหรือการปลูกผักเป็นอาชีพต้องมีความรู้  ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของผักและวิธีการในการปลูกผัก
3. แรงงานในการปลูกผัก  เนื่องจากผักเป็นพืชที่ต้องการความพิถีพิถันในการดูแลรักษา  ดังนั้นการปลูกผักจึงต้องใช้แรงงาน ในการ ดูแลรักษาตามความเหมาะสม  ปกติการปลูกผักเป็นอาชีพ  แรงงานประมาณ  2-3  คน  จะดูแลแปลงปลูกได้ประมาณ  2  ไร่  ส่วน การปลูกผักสวนครัวพื้นที่ประมาณ  30-40  ตารางเมตร  ควรจะมีแรงงานดูแลรักษาเฉลี่ยวันละประมาณ  2-3  ชั่วโมง
4. ความชำนาญในการปลูกผัก  การปลูกผักนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์  ซึ่งผู้ปลูกจำเป็นต้องมีความชำนาญในการปลูก
การวางแผนการปลูกผัก
ความจำเป็นที่จะต้องวางแผนการปลูกผัก
1. ผู้ปลูกสามารถเลือกวิธีการปลูกผักให้เหมาะสมกับสภาพต่าง ๆ ที่มีอยู่  เช่น  สภาพพื้นที่  ฤดูกาล  ผู้ปลูก  ฯลฯ
2. เพื่อให้ได้ผักชนิดต่าง ๆ ตามที่ต้องการหลังจากปฏิบัติตามแผนแล้ว
วิธีการปลูกผักสวนครัว
การเตรียมแปลงปลูก  มีขั้นตอน  คือ
1.1  การพรวนดิน ใช้จอบขุดดินลึกประมาณ  6  นิ้ว  เพื่อพรวนดินให้มีโครงสร้างดีขึ้น  กำจัดวัชพืชในดินกำจัดไข่แมลง หรือโรคพืช ที่อยู่ในดินโดยการพรวนและตากทิ้งไว้ประมาณ 7-15  วัน
1.2  การยกแปลง ใช้จอบพรวนยกแปลงสูงประมาณ  4-5  นิ้ว  จากผิวดิน  โดยมีความกว้างประมาณ  1-1.20  เมตร  ส่วนความ ยาวควรเป็น ตาม ลักษณะของพื้นที่หรืออาจแบ่งเป็นแปลงย่อย ๆ  ตามความเหมาะสมความยาวของแปลงนั้นควรอยู่ในแนวทิศเหนือ – ใต้  ทั้งนี้เพื่อให้ผักได้รับแสงแดดทั่วทั้งแปลง
1.3  การปรับปรุงเนื้อดิน เนื้อดินที่ปลูกผักควรเป็นดินร่วน  แต่สภาพดินเดิมนั้นอาจจะเป็นดินทรายหรือดินเหนียว  จำเป็นต้องปรับปรุง ให้เนื้อดินดีขึ้นโดยการใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา  ประมาณ  2-3  กิโลกรัมต่อเนื้อที่  1  ตารางเมตร  คลุกเคล้าให้เข้ากัน
1.4  การกำหนดหลุมปลูก จะกำหนดภายหลังจากเลือกชนิดผักต่าง ๆ แล้วเพราะว่าผักแต่ละชนิดจะใช้ระยะปลูกที่แตกต่างกัน  เช่น  พริก  ควรใช้ระยะ  75 – 100  เซนติเมตร  ผักบุ้งจะเป็น  5 x 5  เซนติเมตร  เป็นต้น
การปฏิบัติดูแลรักษา
การดูแลรักษาด้วยความเอาใจใส่จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์จนถึงระยะเก็บเกี่ยว  การดูแลรักษาดังกล่าว  ได้แก่
1. การให้น้ำ การปลูกผักจำเป็นต้องให้น้ำอย่างเพียงพอ  การให้น้ำผักควรรดน้ำในช่วง    เช้า – เย็น  ไม่ควรรดตอนแดดจัด  และรดน้ำแต่พอชุ่มอย่าให้โชก
2.  การให้ปุ๋ย  มี  2  ระยะ  คือ
2.1  ใส่รองพื้นคือการใส่เมื่อเวลาเตรียมดิน  หรือรองก้นหลุมก่อนปลูกปุ๋ยที่ใส่รองพื้นควรเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก  คลุกในดินให้ทั่ว ก่อน ปลูกเพื่อ ปรับโครงสร้างดินให้โปร่งร่วนซุย  นอกจากนั้นยังช่วยในการ อุ้มน้ำและรักษาความชื้น ของดินให้เหมาะสม กับการ เจริญเติบโตของพืชด้วย
2.2  การใส่ปุ๋ยบำรุง  ควรจะใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์  โดยแบ่งใส่  2  ครั้ง  ครั้งแรกเมื่อย้ายกล้าไปปลูกจนกล้าตั้งตัวได้แล้ว  และใส่ครั้งที่  2  หลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ  2 – 3  สัปดาห์  การใส่ให้โรยบาง ๆ ระหว่างแถว  ระวังอย่าให้ปุ๋ยอยู่ชิดต้น  เพราะจะทำให้ ผักตาย ได้  เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วให้พรวนดินและรดน้ำทันที  สูตรปุ๋ยที่ใช้กับพืชผัก  ได้แก่  ยูเรีย  แอมโมเนียซัลเฟต  สำหรับบำรุงต้น และใบ  และปุ๋ยสูตร  15-15-15  และ  12-24-12  สำหรับเร่งการออกดอกและผล
3.  การป้องกันกำจัดศัตรูพืช  ควรบำรุงรักษาต้นพืชให้แข็งแรง  โดยการกำจัดวัชพืช  การให้น้ำอย่างเพียงพอและใส่ปุ๋ยตามจำนวนที่กำหนดเพื่อให้ผักเจริญเติบโต  แข็งแรง  ทนต่อโรคและแมลง  หากมีโรคและ แมลง ระบาด มากควรใช้สารธรรมชาติ  หรือใช้วิธีกลต่าง ๆ ในการป้องกันกำจัด  เช่น  หนอนต่าง ๆ ใช้มือจับออก  ใช้พริกไทยป่นผสม น้ำฉีดพ่น   ใช้น้ำคั้นจากใบหรือเมล็ดสะเดาถ้าเป็นพวกเพลี้ย  เช่น  เพลี้ยอ่อน  เพลี้ยแป้ง  เพลี้ยหอย  และเพลี้ยจักจั่น   ให้ใช้น้ำยา ล้างจาน  15  ซีซี  ผสมน้ำ  20  ลิตร   ฉีดพ่นใต้ใบเวลาเย็น  ถ้าเป็นพวกมด  หอย  และทากให้ใช้ปูนขาวโรยบาง ๆ  ลงบริเวณพื้นดิน

การเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวผักควรเก็บในเวลาเช้าจะทำให้ได้ผักสดรสดี และหากยังไม่ได้ใช้ให้ล้างให้สะอาด และนำเก็บไว้ในตู้เย็น สำหรับผัก ประเภทผลควรเก็บในขณะที่ผลไม่แก่จัดจะได้ผลที่มีรสดี และจะทำให้ผลดก หากปล่อยให้ผลแก่คาต้น ต่อไปจะออกผลน้อยลง
สำหรับในผักใบหลายชนิด เช่น หอมแบ่ง ผักบุ้งจีน คะน้า กะหล่ำปลี การแบ่งเก็บผักที่สดอ่อน หรือโตได้ขนาดแล้ว โดยยังคง เหลือ ลำต้นและรากไว้ไม่ถอนออกทั้งต้น รากหรือต้นที่เหลืออยู่จะสามารถงอกงามให้ผล ได้อีกหลายครั้งทั้งนี้จะต้อง มีการดูแล รักษา ให้น้ำและปุ๋ยอยู่ การปลูกพื้นหมุนเวียนสลับชนิดหรือปลูกผัก หลายชนิดในแปลงเดียวกันและปลูกผัก ที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นบ้าง ยาวบ้างคละกันในแปลงเดียวกัน หรือปลูกผักชนิดเดียวกันแต่ทยอยปลูกครั้งละ 3-5 ต้น หรือประมาณว่าพอรับประทาน ได้ใน ครอบครัว ในแต่ละครั้งที่เก็บเกี่ยว ก็จะทำให้ผู้ปลูกมีผักสดเก็บรับประทานได้ทุกวันตลอดปี
 
								
														
							 
								
														
							 
								
														
							
 
								
														
							 
								
														
							 
								
														
							 
									
								 
									
								 
									
								 
									
								 
									
								
555+
555+
ดา
ท่า
กัลยา
เก่งมากดีน่
กมลพงศ์
ยอดเลยครัป ผมอายุ13ทามผักเกือบทุกวันเลยครัป