อบเชย (Cinnamon)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของอบเชย : Cinnamomum spp
อบเชยมีชื่อเรียกตามภาค: ภาคกลางมีชื่อเรียกว่า อบเชยต้น หรือมหาปราบ เรียกตามจังหวัดต่างๆ ดังนี้ ลำปาง เรียกว่า บอกคอก พิษณุโลกเรียกว่า ฝักดาบสุโขทัยเรียกว่า สุรมิส กาญจนบุรี เรียกว่า กระดังงา นครราชสีมาเรียกว่าพญาปราบยะลาเรียกว่า เจียดกระทัง หัน หรือกระเจียด ปราจีนบุรีเรียกว่าสะวง ชลบุรีเรียกว่า โมงหอมหรือกระแจะโมง ถิ่นกำเนิด อบเชยเป็นพืชไม้พื้นเมือง ของประเทศศรีลังกา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของอบเชย : อบเชย มี 2 แบบคือแบบ ซินนามอน หรืออบเชยเทศ เป็นพืชไม้ขนาดกลาง ลำต้นตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลม กิ่งก้านแตกแขนงมาก อบเชยเป็นเนื้อไม้ ด้านในของต้น ที่ไม่ติดเปลือก ด้านนอก มีสีน้ำตาลเนียน เนื้อบางเปราะง่าย กลิ่นหอมรสหวาน และเผ็ด มีน้ำมันหอมระเหย ประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ แบบที่ 2 แบบแคสเซีย หรืออบเชยจีน เป็นเนื้อไม้ ด้านใน ถึงชั้นนอก กาบขนาดใหญ่ สีของเนื้อด้านในสีน้ำตาล ส่วนด้านนอกสีน้ำตาลปนเทา แผ่นจะแข็งกว่า อบเชยเทศ และกลิ่นหอมน้อยกว่า แต่ให้รสหวานและเผ็ดซ่ามากกว่า มีน้ำมันหอมระเหยประมาณ 1 ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ อบเชยแคสเซีย ยังมีสายพันธุ์ย่อยย่อย อีกดังนี้ 1.อบเชยชวา 2.อบเชยอินโดนีเซีย 3.อบเชยไทย 4.อบเชยเวียดนาม
แหล่งปลูกของอบเชย : ขึ้นเองตามธรรมชาติในป่าดงดิบ พบมากที่จังหวัดกาญจนบุรีและพิษณุโลก แต่อบเชย ที่ดีที่สุด ในโลกมีแหล่งปลูกอยู่ที่ประเทศศรีลังกา
การกินอบเชย : เปลือกใบ และกิ่งก้านของอบเชย มีทั้งแบบ ป่นเป็นผงและแบบแท่ง มีกลิ่นหอมและให้รสหวานอมเผ็ดปลายลิ้น โดยนำมาแต่งเป็นกลิ่นอาหาร เช่นข้าวหมกไก่ เบคอนไส้กรอกและผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ต่างๆ หรือ แต่งกลิ่นขนมหวาน ก็ได้เช่น ขนมเค้กคุกกี้ แยม เยลลี่ลูกกวาด เครื่องดื่ม หรือใช้เป็นส่วนผสม ในเครื่องพะโล้ แกงมัสมั่น เนื้อตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เนื้อเปื่อย หรือผงกะหรี่ก็ได้และเป็นส่วนผสมในอาหาร ประเภทซอส ผักดอง หรือใช้แต่งกลิ่นยาเป็นต้น
คุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาของอบเชย :
- อบเชย ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย ให้ความสดชื่น หรือ
- ช่วยขับเหงื่อ
- น้ำมันอบเชยเทศ ใช้เป็นส่วนผสม ทำยาขับลม แก้อาการ ท้องเฟ้อ ท้องอืด ฆ่าเชื้อรา หรือเชื้อจุลินทรีย์ เป็นต้น และ
- ใช้เป็นส่วนผสมในยา ที่ใช้ ลดอาการปวด ตามข้อ หรือ ข้ออักเสบ
- ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง แก้จุกเสียดได้
- ใบและราก นำมาต้มให้หญิงที่คลอดลูกใหม่ๆ กินและรักษา อาการไข้และอาการอักเสบได้
- นำอบเชยตรงส่วนเปลือกของต้นมาปรุงเพื่อใช้เป็นยาดมเพื่อแก้อาการวิงเวียนศรีษะได้
- โดยส่วนใบเชยนั้นมีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้อได้
- ถอนพิษของยางน่องได้โดยการใช้ยางจากใบของต้นอบเชย
- โดยเปลือกของอบเชยช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนของสตรีได้อีกด้วย
คุณค่าทางอาหารของอบเชย 100 กรัม :
- ให้พลังงาน 329 kcal ประกอบไปด้วย
- ไขมัน 1.1 g
- โปรตีน 3.3 g
- แคลเซียม 17 mg
- คาร์โบไฮเดรต 76.6 g
- โพแทสเซียม 46 mg
- ไทอะมิน1.69mg
- เหล็ก 22.2 mg