บัวสาย (Water Lilly)
บัวสายภาษาอังกฤษ คือ : Water Lilly
บัวสายมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ดังนี้ : Nymphaea lotus Linn. Var. pubescens Hook. F. & th.
บัวสายมีชื่อเรียกได้ตามภาคต่างๆดังนี้ : ภาคเหนือ เรียกป้านแดง ภาคกลางเรียกว่า บัวขม บัวแดง บัวกินสายและสายบัว นครราชสีมาเรียกว่า บัวขี้แพะ ศาลแม่ฮ่องสอนเรียกว่า ป้านเขมรเรียกว่า บัวจงกลนี
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของบัวสาย : บัวสายมีเหง้าอยู่ใต้ดินใบมีลักษณะกลมขอบหยักแหลม ใบแปะผิวน้ำ หัวเป็นตะปุ่มตะป่ำ ฐานใบเปิดเส้นผ่าศูนย์กลางของใบ 25 ถึง 30 cm ใบอ่อนสีเขียวอมน้ำตาลก้านยาวจากใต้น้ำถึงผิวน้ำ ดอกมีหลายสีโผล่จากน้ำ ด้านนอกดอกสีเขียวอ่อนแต่เมื่อดอกบานด้านในสีขาว โดยส่วนปลายเป็นสีชมพู มีเมล็ดเล็กๆอยู่เป็นจำนวนมากด้านในดอก
ฤดูกาลที่เหมาะสมกับบัวสาย : ปลูกได้ตลอดทั้งปี
แหล่งปลูกที่พบได้มาก : บัวสายจะพบได้ตามบึงที่มีน้ำขังอยู่ทั่วไป
การกินของบัวสาย : ก้านใบกินเป็นผัก โดยการลอกผิวที่หุ้มออก จะนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ แกงกะทิหรือแม้แต่กินเป็นผักสดจิ้มน้ำพริกก็ได้ ไหลบัว นำมาทำแกงส้มได้
คุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาของบัวสาย :
- เมล็ดคั่วกินบำรุงกำลัง
- ดอกบำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื้น
- แก้ร้อนในได้
- หัว บำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ
- บำรุงหัวใจและ
- บำรุงครรภ์
คุณค่าทางอาหารสายบัว 100 กรัม
- ให้พลังงาน 12 กิโลแคลอรี่ (Kcal) ประกอบด้วย
- แคลเซียม 8 มิลลิกรัม (mg)
- เส้นใย 7 กรัม (g)
- โปรตีน 3 กรัม (g)
- ไขมัน 1 กรัม (g)
- เบต้าแคโรทีน 44 ไมโครกรัม (µg)
- Vitamin C 9 มิลลิกรัม (mg)
- Vitamin A 7 ไมโครกรัม (µg)