ต้นกระโดน
ชื่อสามัญ:
Tummy-wood

ชื่อวิทยาศาสตร์: Careya sphaerica Roxb. / Careya arborea Roxb.(Syn.)

ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ: กระโดนบก
1. ในแถบอีสาน จะเรียกว่า กระโดนโคก
2. ในแถบภาคเหนือ จะเรียกว่า ปุยขาว, ผักปุย, ผัดฮาด, พุย
3. ในแถบภาคใต้ จะเรียกว่า ปุยกระโดน

และในภูมิภาคต่างๆก็จะเรียกไม่เหมือนกันเช่น หูกวาง(จันทบุรี), กะนอล(เขมร)

, ขุย(กะเหรี่ยงแถบกาญจนบุรี),

ถิ่นกำเนิดของต้นกระโดน: อยู่ในประเทศอินเดีย

ดอกกระโดน

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นกระโดน

ต้นกระโดนจัดว่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นจะไม่สูง เปลือกของต้นกระโดนจะมีสีเทาเข้ม หนาและแตกล่อนเป็นแผ่นๆ ส่วนใบจะมีลักษณะรูปไข่และเป็นใบเดี่ยว เรือนยอดจะเป็นพุ่มกลมแน่นทึบ กลีบก็จะเรียงเวียนกันไปตามช่อ ส่วนสีของกลีบดอกจะมีสีนวลขาวและที่โคนก็จะเชื่อมกันจนมีลักษณะคล้ายระฆัง โดยผลของต้นกระโดนนั้นจะมีรูปร่างกลมและมีเมล็ดอยู่เยอะ

ฤดูกาลที่กระโดนเจริญเติบโต: ยอดอ่อนของต้นกระโดนจะออกมาในช่วงประมาณเดือน มีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นฤดูแล้ง

ลูกกระโดน

แหล่งปลูก: กระโดนจะสามารถปลูกได้ในทุกภาคของประเทศไทย

เมนูกระโดน: ทั้งใบอ่อน ดอกอ่อนและ ยอดอ่อนของต้นกระโดน สามารถนำมาจิ้มกับน้ำพริกกินเป็นผักสดได้ หรือจะทำเป็น แจ่ว, ลาบ, ยำมดแดง, ก้อย และส้มตำ ก็ยังได้

สรรพคุณทางยาและประโยชน์ของต้นกระโดน

  1. ใบกระโดน จะมีสารที่เรียกว่า แทนนินอยู่ประมาณ 19% ซึ่งสามารถนำไปปรุงเป็นน้ำมันสมานแผลได้อย่างดี (แต่ถ้านำไปกินจะมีรสชาติฝาดๆ)
  2. ใบและราก จะสามารถนำไปเป็นยาเบื่อปลาได้ด้วย
  3. เปลือกและผล จะใช้เป็นยาฝาดสมานได้ มีฤทธิ์ทั้งสมานแผลและแก้ท้องเสียได้
  4. น้ำจากเปลือกและดอกของต้นกระโดน ให้นำไปผสมกับน้ำผึ้ง กินเพื่อทำให้ชุ่มคอ, แก้อาการไป, แก้หวัด
  5. น้ำจากเปลือกและดอก ยังเป็นยำบำรุงสำหรับสตรีที่เพิ่มคลอดบุตรได้
  6. ผลของต้นกระโดน ยังมีฤทธิ์ช่วยย่อย สำหรับคนที่อาหารไม่ย่อยได้
  7. เมล็ดของต้นกระโดนยังเป็นยาแก้พิษอีกด้วย
  8. เปลือกของต้นกระโดน ยังมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดเมื่อยได้อีกด้วย

รูปดอกกระโดน

คุณค่าทางอาหารของต้นกระโดน

โดยในผักกระโดน 100กรัม จะประกอบไปด้วย

  • พลังงานประมาณ80 กิโลแคลอรี่
  • เส้นใย 20กรัม
  • ฟอสฟอรัส 20 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 15มิลลิกรัม
  • วิตามินบี1 0.1มิลลิกรัม
  • วิตามินบี2 1มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 130มิลลิกรัม
  • ไนอะซิน 2มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 3,900IU

Credit: รูปภาพจาก flickr.com (Dinesh_Valke)