สถานีวิจัยดอยปุย ตั้งอยู่ที่ ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ 119 ไร่ 2 งาน 2.5 ตารางวา เป็นแปลงทดลอง 74 ไร่ 1 งาน 97.5 ตารางวา สวนนี้นับเป็นสวนประวัติศาสตร์ของการเกษตรบนที่สูง คือเป็นสวนที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 200,000 บาท เพื่อทรงสนับสนุนการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาบนที่สูง เพื่อการจัดหาพื้นที่เพิ่มเติมให้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ดำเนินการศึกษาวิจัย โดยจัดซื้อสวนผลไม้ของชาวบ้านเพื่อใช้พัฒนาเป็นพื้นที่ในการวิจัย ณ สถานีวิจัยดอยปุย ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสถานีวิจัยดอยปุย ซึ่งถือเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกและแห่งเดียวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพื้นที่ให้สนองพระราชดำริการดำเนินงาน ของมูลนิธิโครงการหลวง และมีการศึกษาวิจัยพืชหลายชนิดก่อนนำไปขยายผลให้แก่เกษตรกรปลูกเชิงพาณิชย์ ต่อไป หนึ่งในนั้นก็มี “พลับ”
ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งจากสถานีวิจัยดอยปุย ว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลา ที่เป็นกิจกรรมสำคัญมาก ๆ ช่วงเวลาหนึ่งของการดูแลรักษาผลผลิตพลับ เนื่องจากเดือนนี้ผลพลับ มีการหลุดร่วงบ้างแล้ว และเริ่มมีสีนวลขึ้น พร้อมที่จะรับการห่อผล เพื่อป้องกันแมลงศัตรูเข้าทำลาย เช่น การกัดกินของตัวต่อป่า การจิกกินของนก การโฉบกินของค้างคาว หรือแม้แต่การมานั่ง แทะกินของกระรอก กระแต การดูแลรักษาช่วงนี้จึงถือว่าสำคัญ มากสำหรับผลผลิตที่มีคุณภาพของพลับ ด้วยเป็นช่วงที่ต้องพิจารณาคัดผลเพื่อ ให้เจริญเติบโตต่อไป หากคัดผลไม่ถูกต้องแล้วไปห่อก็จะทำให้เสียเวลา หรือเมื่อคัดผลถูกต้องแล้วห่อไม่ดีก็ยังคงล่อแหลมต่อการถูกทำลายอยู่ดี ฉะนั้นช่วงระยะนี้จึงมีความสำคัญสำหรับผู้ที่ปลูกพลับและปรารถนาจะให้ผลผลิต ออกมาสวยงามมีคุณภาพตามที่ต้องการ
“พลับ” เป็นไม้ผลเมืองหนาวประเภทยืนต้นขนาดใหญ่มีการเจริญเติบโตดี ลำต้นมีผิวหยาบกร้าน ขรุขระ สีน้ำตาลแก่ ใบสีเขียวเป็นมัน รูปหัวใจ ดอกคล้ายระฆังสีเหลืองอ่อน มีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย ส่วนดอกกะเทยนั้นพบน้อยมาก ลักษณะผลมีหลายแบบ เช่น กลม กลมแบน กลมยาวคล้ายรูปกรวย ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อผลแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื้อผลจะแข็งเมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม เมล็ดสีน้ำตาลแก่พลับบางชนิดก็มีรสฝาด บางชนิดก็มีรสหวาน เป็นพืชที่ชอบอากาศหนาวเย็น เพื่อทำให้การพักตัวสิ้นสุดลง แต่ก็ไม่ชอบอากาศหนาวเย็นจัดเกินไป อุณหภูมิที่ลดต่ำอย่างกะทันหัน ระหว่างต้นฤดูหนาว ทำให้เกิดอันตราย ดังนั้น ความเย็นและระยะความหนาวก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดินที่เหมาะก็คือดินร่วนปนทรายควรเป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งจะทำให้ได้ผลผลิตดี
การขยายพันธุ์พลับทำได้หลายทาง เช่น การเพาะจากเมล็ด การใช้หน่อที่งอกมาจากราก การติดตาและต่อกิ่ง ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดมักจะกลายพันธุ์และมีการเจริญเติบโตไม่สม่ำเสมอ ต้นที่ได้จากหน่อที่งอกออกมาจากราก ก็ขยายพันธุ์ได้ช้าและมีจำนวนน้อย ส่วนการติดตาและต่อกิ่งทำได้ง่ายมาก แต่ต้องใช้ต้นตอที่มีระบบรากแข็งแรง พลับเป็นไม้ผลที่มีการผลัดใบ ต้องการสภาพอากาศที่หนาวเย็น ในฤดูหนาวใบจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและร่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พอถึงเดือนมกราคมใบจะร่วงหมดต้น ต้นพลับจะพักตัวจนถึงเดือน มีนาคมก็จะเริ่มผลิใบขึ้นมาใหม่หลังจากนั้นไม่นาน ก็จะมีการผลิดอกและติดผล ผลจะแก่ในราวเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
พลับขึ้นได้ดีในดินแทบทุกชนิด จึงไม่มีปัญหามากนักสำหรับการเลือกที่ปลูก ระยะปลูกที่เหมาะสม 6-8×6-8 เมตร ซึ่งควรเริ่มปลูกต้นฤดูฝน การเตรียมหลุมปลูกพลับ ควรขุดให้มีความกว้างยาวลึกด้านละ 0.5×1 เมตร แบ่งดินบนไว้กองหนึ่งดินชั้นล่างไว้อีกกองหนึ่ง นำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า ๆ เทใส่ลงไปขนาดพอ ๆ กับกองดินบนผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นจึงค่อยเอาดิน ล่างกลบลงไปให้มีระยะสูงกว่าปากหลุมเล็กน้อย นำต้นพลับที่ชำไว้ลงปลูกได้เลย
สนใจต้องการดูการห่อพลับ อย่างถูกวิธีช่วงนี้เข้าไปดูได้ที่สถานีวิจัยดอยปุย หมู่ 12 ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หรือโทรศัพท์สอบถาม ไปก่อนก็ได้ที่ 0-5321-1142 ต่อ 13 สำหรับท่านที่สนใจจะพักค้างแรมที่สถานีวิจัยแห่งนี้ทางสถานีก็มีบ้านพักไว้บริการ ในราคาแบบราชการ.
พีรศิษฐ์ สมแก้ว
Leave a Reply