กระชาย เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าหรือลำต้นอยู่ใต้ดิน ซึ่งมีลักษณะเรียว ยาวอวบน้ำ ตรงกลางเหง้าจะพองคล้ายกระสวย ออกเกาะกลุ่มกันเป็นกระจุก มีสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแกมส้ม เนื้อข้างในเป็นสีเหลืองมีกลิ่นหอม ใบเป็นใบเดี่ยวออกสลับกัน สีค่อนข้างแดง ใบมีขนาดยาวรีรูปไข่ ปลายใบแหลมมีขนาดใหญ่สีเขียวอ่อน โคนใบเป็นกาบหุ้มซ้อนกัน ออกดอกเป็นช่อที่ยอด ดอกมีสีขาวหรือสีขาวปนชมพู ผลของกระชายเป็นผลแห้ง
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
– ชอบอากาศร้อนชื้น ดินร่วนปนทราย ไม่ชอบดินเหนียวและดินลุกรัง
– ปลูกในที่กลางแจ้ง
การเตรียมดินปลูกกระชาย
– ไถพรวนหรือขุดดินเพื่อให้ดินร่วนซุย
– ถ้าดินระบายน้ำดี ไม่จำเป็นต้องยกร่อง
กระชาย สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด โดยเป็นดินที่มีการระบายน้ำได้ดีไม่ท่วมขัง การเตรียมดินควรไถพรวนตอนต้นฤดูฝน และควรมีการยกร่องปลูกโดยมีระยะห่างระหว่างแถว 75 ซม. ระหว่างต้น 30 ซม.
ฤดูการปลูกกระชาย
ปลูกในช่วงฤดูฝนปลายเดือน เมษายน-พฤษภาคมและจะเก็บหัวในช่วงฤดูหนาว คือปลายเดือน ธันวาคม-มกราคม ซึ่งช่วงดังกล่าวหัวจะแห้ง
การปลูกการเตรียมเหง้าพันธุ์กระชาย
– คัดเลือกหัวพันธุ์ที่มีอายุ 7-9 เดือน มีตาสมบูรณ์ ไม่มีโรคแมลงทำลาย
– แบ่งหัวพันธุ์โดยการหั่น ขนาดของเหง้าควรมีตาอย่างน้อย 3-5 ตาหรือแง่ง มีน้ำหนัก 15-50 กรัม
– แช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดแมลง มาลาไธออน หรือคลอไพรีฟอส 1-2 ชั่วโมง ตามอัตราแนะนำ
– ชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีป้องกัน กำจัดเชื้อราก่อนปลูก
การเตรียมหัวพันธุ์กระชาย
การปลูกใช้ท่อนพันธุ์มี 2 ลักษณะคือหัวแม่และแง่ง
– การปลูกโดยหัวแม่ควรมีน้ำหนักประมาณ 15-50 กรัม/ หัว
– การปลูกด้วย แง่งพันธุ์มีปล้อง 7-9 ปล้อง / ชิ้น น้ำหนัก 15-30 กรัม ยาว 8-12 ซม.
ก่อนปลูกกระชาย หัวพันธุ์ควรแช่ด้วยยาป้องกันเชื้อรา และยาฆ่าเพลี้ยโดยแช่ไว้ประมาณ 30 นาทีการปลูกควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 50 กก. / ไร่ และวางท่อนพันธุ์ กลบดินหนาประมาณ 5-10 ซม. ขมิ้นจะใช้เวลาในการงอก ประมาณ 30-70 วัน หลังปลูก
การปลูกกระชาย
– ระยะระหว่างต้น และระหว่างแถว 30×30 ซม.
– ขุดหลุมขนาด กว้าง x ยาว x ลึก 15x15x15 ซม.
– ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมประมาณหลุมละ 200 กรัม ( 1 กระป๋องนม )
– นำหัวพันธุ์ที่เตรียมไว้ลงปลูก กลบดินหนา 5 ซม.
– คลุมแปลงด้วยฟางหรือหญ้าคาหน้าประมาณ 2 นิ้ว เพื่อป้องกันการงอกของวัชพืชและรักษาความชื้นในดิน
– รดน้ำให้ชุ่ม
การใส่ปุ๋ยและกำจัดวัชพืช
กระชายงอก ยาวประมาณ 5-10 ซม. ควรรีบทำการกำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยแอมโมเนียซัลเฟต อัตรา 50 กก. / ไร่ เชื้อกำจัดวัชพืชครั้งที่ 2 ควรพรวนดินกลบโคนแถว
Leave a Reply