กะหล่ำดาว
ชื่อสามัญ: Brussels Sprouts
ชื่อวิทยาศาสตร์: Brassica oleracea var. gemmifera
ชื่ออื่นๆ: Rose cabbage
ถิ่นกำเนิดของกะหล่ำดาว: กะหล่ำดาวนั้นจะเริ่มปลูกและพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆที่เมืองบัรสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกะหล่ำดาว
กะหล่ำดาวจัดว่าเป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่สามารถแยกออกเป็น 3กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มปลีสีเขียว 2. กลุ่มปลีสีเขียวอ่อน 3. กลุ่มปลีสีเขียวเข้ม โดยลำต้นจะสูงประมาณ 1เมตร ตั้งตรง ไม่มีการแตกกิ่งแต่จะมีตาที่มุมใบ ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่แตกใบออกเวียนรอบต้น คล้ายบันไดวนเพื่อเป็นปลีขนาดเล็กต่อไป โดยส่วนบนสุดของต้นจะมีใบคล้ายใบของกะหล่ำดอกออกอยู่
ฤดูกาลที่กะหล่ำดาวเจริญเติบโต: กะหล่ำดาวจะสามารถปลูกและเจริญได้ดีที่สุดในช่วงฤดูหนาว
แหล่งปลูก: จะนิยมปลูกกันในแถบภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะบนดอยสูง ในจังหวัดเชียงใหม่ เพราะกะหล่ำดาวจะเจริญเติบโตได้ดีในอากาศเย็น
เมนูที่ทำจากกะหล่ำดาว: กะหล่ำดาวนั้นสามารถนำมารับประทานได้ทั้งใบและปลี ไม่ว่าจะผัดหรือต้มก็มีวิธีมากมาย แต่ที่นิยมที่สุดก็จะเป็นการกินสดๆ โดยการจิ้มกับน้ำพริก ทไเป็นสลัด หรือกินเป็นเครื่องเคียงก็ได้ ถ้านำไปผัดกับเนื้อสัตว์และน้ำมันหอยก็จะอร่อยไปอีกแบบ
สรรพคุณทางยาและประโยชน์ของกะหล่ำดาว
- กะหล่ำดาวนั้นมีสารต้านมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งในลำไส้
- มีวิตามินซีสูง จึงช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
- ช่วยกระตุ้นและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยทำให้มีบุตรได้ง่ายขึ้น เพราะในกะหล่ำดาวนั้น มีกรดโฟลิกสูง จะช่วยเสริมวัยเจริญพันธุ์ให้แข็งแรงได้
- ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องคลอดก่อนกำหนดได้
- ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารได้ เพราะในกะหล่ำดาวมีสารที่ชื่อว่า s-methylmethionine
- ช่วยทำให้ขับถ่ายได้ดี
- ลดคอเรสเตอร์รอล และทำให้หับได้ง่ายขึ้นได้
คุณค่าทางอาหารของกะหล่ำดาว
โดยในกะหล่ำดาว 100กรัม จะประกอบไปด้วย
- พลังงานประมาณ 20 กิโลแคลอรี่
- โซเดียม 30มิลลิกรัม
- โปรตีน 4กรัม
- แคลเซียม 15มิลลิกรัม
- คาร์โบไฮเดรต 2กรัม
- ไขมัน 0.5กรัม
- กากใย 4กรัม
- น้ำตาล 2กรัม
- โพแทสเซียม 380มิลลิกรัม