กลอย
ชื่อวิทยาศาสตร์: Doscorea hispida Dennst.
ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ: โดยทั่วไปโดยเฉพาะภาคกลางจะเรียกกันว่า มันกลอย แต่ในแถบภาคเหนือ จะเรียกว่า กอย, กลอยนก และในจังหวัดต่างๆก็จะเรียกกันแตกต่างกันไปด้วย เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช จะเรียกว่า กลอยหัวเหนียว หรือ กลอยข้าวเหนียว ส่วนในจังหวัดชุมพรจะเรียกว่า กลอยข้าวเจ้า, กลอยระกำ, กลอยหัวช้าง, กลอยข้าวเหนียว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกลอย
กลอยนั้นจัดได้ว่าเป็นไม่เลื้อย โดยจะมีหนามเล็กๆอยู่ตามลพต้นพร้อมด้วยขนสีขาวปกคลุมอยู่ตามหัวกลอย โดยส่วนหัวจะอยู่ใต้ดินพร้อมด้วยรากที่มีอยู่ทั่วทั้งหัวกลอย และหัวกลอยมีลักษณะกลมรี สีน้ำตาลอมเหลืองเนื้อข้างในจะมี 2สีคือ สีครีมและสีขาว และมีชื่อเรียกต่างกัน สีขาวนั้นเราจะเรียกกันว่า “กลอยหัวเหนียว” ส่วนสีครีมนั้น จะเรียกว่า “กลอยเหลือง” หรือ “กลอยไข่” โดยกลอย 1ต้น จะมีหัวกลอยอยู่ได้ถึง 3-6หัว
ใบ เป็นรูปรีที่มีปลายแหลม ผิวใบสาก ขอบเรียบ โดยจะมีใบย่อยๆ 3ใบ
ดอก จะออกตามซอกใบบนก้านดอก และจะออกมาลักษณะเป็นช่อมีสีขาว จำนวน 20-50ดอกโดยประมาณ ก้านดอกจะยาวย้อยลงมา
ดอกผล จะมีลักษณะคล้ายกับผลมะเฟือง มี 3พู โดยแต่ละพูจะมี เมล็ดอยู่ 1เมล็ด ซึ่งเมล็ดจะมีปีกบางใสๆอยู่รอบๆเมล็ด ลักษณะเมล็ดจะกลมแบน
ฤดูกาลที่กลอยเจริญเติบโด: กลอยจะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝน
แหล่งปลูก: เราจะสามารถเจอกลอยได้ตามแหล่งดอนที่สามารถระบายน้ำได้ดี และแดดไม่จัดมาก
เมนูที่ทำจากกลอย:
ปกติกลอยจะไม่ค่อยนิยมรับประทานกัน เพราะกลอยนั้นมีสายที่ชื่อว่า dioscorine ซึ่งเป็นพิษที่จะทำให้เกิดอาการเวียนศรีษะ อาเจียนได้ แต่การกินกลอยก็สามารถกินได้ ถ้าหากทำตามในกรรมวิธีต่อไปนี้
- นำหัวกลอยมาปอกเปลือก หลังจากนั้นหั่นเป็นแว่นๆ
- นำไปแช่น้ำ แช่1วันแล้วน้ำจะไม่ใส ให้เปลี่ยนน้ำแล้วแช่ใหม่จนกว่าน้ำจะใส
- หาของหนักพยายามทับไว้จนน้ำออกหมด
หลังจากนั้นจึงสามารถนำไปทำเมนูต่างๆได้ เช่น สมัยก่อนนั้น นิยมทานกลอยนึ่งแทนข้าว, แกงบวด, ข้าวเหนียวกลอย หรือจะนึ่งแล้วนำไปคลุกกับน้ำตาลและมะพร้าวก็ได้
สรรพคุณทางยาและประโยชน์ของกลอย
ถึงแม้ว่ากลอยนั้นจะมีพิษ แต่ถ้าหากกทำถูกวิธี กลอยนั้นก็มีประโยชน์มากเหมือนกัน เช่น
- เนื้อกลอยเป็นยาแก้ฝ้าทำให้หน้าขาวได้ โดยวิธีการทำก็คือ ให้นำเนื้อกลอยดิบๆฝนและผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำไปพอกหน้าไว้ก่อนนอน และให้ล้างออกในตอนเช้า ขะช่วยรักษาฝ้าและทำให้หน้าขาวได้
- ช่วยทำให้ฝีสุกเร็วได้ โดยให้นำหัวที่แห้งแล้วฝนกับที่ฝนพร้มกับน้ำซาวข้าว ถ้านำไปทาจะทำให้ฝีสุกเร็วขึ้น
- ช่วยปิดแผลมีหนองได้ โดยนำหัวกลอยไปคั่วแล้วผสมกับน้ำมันพืช นำไปทาจะช่วยปิดแผลที่มีหนองได้
- แก้อาการแผลบวมอักเสบได้ โดยการนำหัวใต้ดินมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ แล้วนำไปใช้ในบริเวณที่มีการอักเสบบวมของแผลได้
- ในแผลของสัตว์เลี้ยงจะช่วยฆ่าหนอนได้ โดยการนำรากกลอยมาบดแล้วนำไปผสมกับน้ำมันมะพร้าว พร้อมด้วยใบยาสูบและพริก หลังจากนั้นไปทาแผลในสัตว์ จะช่วยฆ่ากนอนในแผลของสัตว์ได้
คุณค่าทางอาหารของกลอย
โดยในกกลอย 100กรัม จะประกอบไปด้วย
- พลังงานประมาณ 140 กิโลแคลอรี่
- น้ำ 60กรัม
- โปรตีน 2.5กรัม
- แคลเซียม 20มิลลิกรัม
- คาร์โบไฮเดรต 33กรัม
- ไขมัน 0.1กรัม
- ฟอสฟอรัส 30มิลลิกรัม
- เหล็ก 2มิลลิกรัม
- ไนอะซิน 0.2มิลลิกรัม
- ไทอะมิน 0.1มิลลิกรัม
- วิตามินซี 1มิลลิกรัม
ขอบคุณที่มาภาพ: www.thaicrudedrug.com คุณSudarat Homhual